จังหวัดอุทัยธานี เป็นจังหวัดหนึ่งที่มีประวัติศาสาตร์ในอดีตยาวนาน ทำให้เมืองนี้มีวัด และสถานที่โบราณคดี และมีกิจรรมทางศาสนา วัฒนธรรมมากมาย
แต่นั่นก็ทำให้เราต้องเลือกจุดหมายที่ไปให้ดี เพราะถ้าจะเที่ยวให้หมดคงเป็นไปได้ยาก ในบางจุดก็น่าสนใจแต่ไม่เป็นที่เขานิยม บางจุดก็กำลังเริ่มพัฒนาเป็นจุดท่องเที่ยวไม่มีข้อมูลมากนัก ทำให้ยากในการที่จะกำหนดจุดเที่ยวในจังหวัดนี้ให้ชัดเจน
อุทัยธานี ถ้าให้พูดตรงๆจังหวัดนี้ไม่ค่อยมีจุดที่โดดเด่น แต่กลับแฝงความน่าสนใจอย่างน่าประหลาด จุดที่คนเขานิยมรีวิวกัน ถ้าเราไปอาจรู้สึกว่าไม่น่าไปเลย แต่บางจุดที่เป็นแค่ทางผ่านลองแวะดู ไม่มีในรีวิวเด่นๆ กลับเป็นจุดน่าความประทับใจอย่างไม่น่าเชื่อ
ผมเลยอยากแนะนำสถานที่ที่ผมได้ไปมา เผื่ออาจจะเป็นที่ประกอบการตัดสินใจของหลายๆคนที่ได้เข้ามาอ่าน เรามาดูที่เที่ยวที่ผมได้ไปกัน
ตลาดสามชุก
ถ้าให้พูดกันตรงๆ ก็เหมือนตลาดย้อนยุคในหลายๆที่ มีขนมโบราณ อาหารให้เลือกซื้อหรือเป็นของฝาก เหมาะเป็นจุดแวะพักในการเดินทางที่ดี อาหารอร่อย เดินดูของเก่าๆ แปลกๆ ที่เราอาจหาได้ยากแล้วในยุคนี้
ถ้าท่านตัดสินใจมาที่นี่ ผมอยากแนะนำเรื่องที่จอดรถ ตรงหน้าตลาดมีที่จอดรถแต่ค่อนข้างน้อย ให้ท่านพอขับรถมาเจอตลาดให้เลี้ยวซ้ายตรงหน้าตลาดออกไปสุดซอย (ซอย 13) แล้วเลี้ยวซ้ายจะเป็นถนนสองเลน ค่อนข้างใหญ่มีที่จอดให้จอดสองข้างทางเป็นคลองส่งน้ำมั๊ง จอดฟรี และที่จอดรถเยอะครับ (จะได้ไม่ต้องหัวเสียเรื่องที่จอดรถ)
วัดท่าซุง (วิหารแก้ว)
วัดท่าซุง เป็นวัดที่ต้องไปหากได้มาเยือนจังหวัดอุทัยธานี สวยงามตระกรานตามาก ทางเข้าอาจดูแคบแต่ข้างในค่อนข้างกว้างมีที่จอดรถค่อนข้างเยอะ ตัววิหารภายในส่วนใหญ่เป็นกระจก สะท้อนกับโคมไฟกับองค์พระ เป็นภาพที่หาดูที่อื่นไม่ได้ ผมแนะนำว่าต้องมาที่นี้
ข้างนอกอาจดูวุ่นวายเพราะมีนักท่องเที่ยวค่อนข้างเยอะ แต่พอเราได้เข้าไปในตัววิหาร ก็พบกับบรรยากาศอีกแบบ เย็นสบายเงียบและกว้างขวาง มีบางคนจับกลุ่มกันนั่งสมาธิกันเป็น ชม.ก็มี (ถ้าไม่ห่วงว่าเป็นวัดผมคงนอนไปแล้ว)
ฝั่งตรงข้ามเยื่องๆ มีวัดที่น่าสนใจให้เข้าไปชม มีร้านกาแฟของวัดที่น่านั่นพักก่อนเดินทางต่อ
ตรอกโรงยาถนนคนเดิน
เป็นถนนคนเดินที่มีอาหารเยอะมากกก… ควรมาหาซื้อของกินที่นี้ หรือซื้อเอาไว้กินในที่พัก อาหารอร่อยมีร้านกาแฟดัง “มุมสะแก” ที่หลายๆคนรีวิว จุดเด่นร้านนี้คือ โรตี อร่อยมาก หลายๆคนบอกว่ามาร้าน “มุมสะแก” นั่งข้างบนจะได้วิวดี แต่จากที่ผมไปเจอ ค่อนข้างคับแคบแถมร้อน แนะนำให้นั่งข้างล่างแล้วเดินมาถ่ายรูปข้างบนจะดีกว่า ถ่ายรูปเสร็จก็ลงมานั่งทานอาหารข้างล่างแบบสบายๆ
เมื่อทานอาหารเสร็จ ต่อไปก็ไปเดินซื้ออาหารมากักตุนไว้ สำหรับตอนกลางคืนหรือหากไม่อิ่มก็ไม่ต้องรีบ ไปเดินตลาดอาหารต่อที่จุดหมายของเราคือ “ตรอกโรงยา” เดินไม่ไกลจากจุดนี้ มีจุดถ่ายภาพที่เป็น โรงฝิ่นเก่า และฉากเป็นจุดๆ ตามทางเดิน
วัดเขาสะแกกรัง
ข้างบนเขาเป็นวัด แต่ต้องเดินขึ้นบันได 449 ขั้น ทางเดินเป็นรูปปั้นมังกรยาวจนถึงปลายทาง ในวันแรม 1 ค่ำเดือน 11 (ตุลาคม) ของทุกปี จะจัดงานประเพณี ตักบาตรเทโว โดยจะจัดงานจำลองเหตุการณ์ คล้ายในพุทธประวัติ โดยพระสงฆ์เดินลงมาจากวัดเพื่อให้ชาวบ้านหรือนักท่องเที่ยวร่วมกันตักบารต งานค่อนข้างใหญ่ผู้คนมากมาจะมารวมตัวกันในงานนี้ หากใครจะไปในช่วงนี้ ควรที่จะจองที่พักกันแต่เนิ่นๆ เพราะจะหาที่พักยากมากหากใกล้ถึงวันเทศกาล
วิวข้างบนสวยมากบรรกาศดีมาก เราจะรู้สึกดีมากหากเดินมาถึงข้างบน
แต่เดี่ยวววววว ถ้าเราไปถึงข้างบนแล้วเดินไปสุดทางจะพบว่า ….
“มีทางขึ้นสองทาง” รถจอดกันเต็ม ที่เดินเดินขี้นมาคืออะไร !!!!!!!!
หุบป่าตาด
เป็นป่าที่เต็มไปด้วยต้นตาด เป็นที่มาของชื่อ “หุบป่าตาด” และที่นี้เป็นที่มีชื่อเสียงเพราะเป็นที่เดียวในโลก ที่มีกิ่งกือมังกรสีชมพู วันที่ 23 พฤษภาคม 2551 สถาบันไอไอเอสอี (International Institute for Species Exploration : IISE) มหาวิทยาลัยรัฐแอริโซนา สหรัฐอเมริกา ได้ประกาศให้กิ้งกือมังกรสีชมพู เป็นการค้นพบสิ่งมีชีวิตชนิดใหม่เป้นอันดับ 3 ของโลก รองจากการค้นพบปลากระเบนไฟฟ้าในแอฟริกา และการค้นพบฟอสวิลไดโนเสาร์ปากเป็ดอายุ 75 ล้านปี ในสหรัฐอเมริกา
สำหรับคนชอบธรรมชาติ เป็นที่ที่ควรจะมาเที่ยวชม ลักษณะทางเข้าเป็นถ้ำมืดๆ ต้องใช้ไฟฉายส่องนำทางเข้าไป แต่ก็ไม่ไกลนัก ภายในเป็นถ้ำหินและหุบเขาหินสะภาพอากาศค่อนข้างชื้น
วัดถ้ำเขาวง
นี้เป็นอีกจุดหนึ่งที่สายถ่ายรูปไม่ควรพลาด เป็นวัดที่สวยมากจนผมคิดว่านี้หรือคือ “วัด” ถึงภายในจะไม่กว้างนักเพราะติดภูเขาแต่ถ้าได้เข้าไปแล้ว บรรยากาศได้อารมณ์สงบมาก สามารถเดินขึ้นไปได้หลายชั้น มีทางเดินขึ้นไปอีกจากชั้นบนด้านหลัง ผมไม่แน่ใจว่าไปสุดที่ไหน เพราะไม่ได้เดินขึ้นไปเพราะเริ่มน่ากลัวตรงที่ ตอนผมไปมีผมขึ้นไปชั้นบนคนเดียวไม่มีใครกล้าตามขึ้นมา มีรูปปั้นพระอาจาร์ย ดังๆหลายรูป เลยตัดสินใจไม่ขึ้นไปต่อ
โดยรวมเป็นวัดที่มีความร่มรื่น สวยงาม และสงบ หลายอารมณ์อยู่ด้วยกัน
(ไหนรูปปั้นไหนพระจริง ก็ดูๆกันดีๆนะครับ เพราะรูปปั้นที่นี้เขาปั้นได้เหมือนจริงมากขนาดไปยืนใกล้ๆยังไม่ทราบเลยว่าพระจริงหรือรูปปั้น)
วัดธรรมามูล
เป็นวัดที่ด้านล้างเป็นตลาดริมน้ำ สำหรับทานข้าวห้อยขาดูวิว สะพานข้ามแม่น้ำ ชิวอย่างที่สุด พักผ่อนให้เต็มที่ (ก่อนจะเจอความยากลำบากในการเดินขึ้นไปข้างบน)
ขึ้นมาจากตลาดริมน้ำก็จะเจอ จุดไหว้พระสักการะบูชา ภายในมีพระพุทธรูปที่สวยงาม และเราจะได้พบเจอจุดวัดใจ คือบันได อีกแล้วครับ อันนี้สูงกว่าเดิม 565 ขั้น
ถ้าขึ้นไปก็ไม่มีอะไรข้างบนมาก แต่เราจะได้เห็นวิวทิวทัศน์ข้างล่างที่สวยงามจากมุมข้างบน และข้างบนจะต้องเดินไปอีกประมาณ 700 เมตร (มั๊งเห็นเขาพูดกัน แต่ทำไมเราเดินเหมือนหลายกิโลก็ไม่รู้) ก็จะพบกุฏิ ที่มีพระพุทธรูปอยู่ ไม่แน่ใจว่ามีพระท่านอาศัยอยู่หรือไม่ เราพักเหนื่อยแล้วก็ไหวพระ หายเหนื่อยก็เดินลง 555+ (ถ้าไหว ไหนๆมาก็ต้องไปให้สุดครับ)
จุดอื่นๆที่เป็นจุดถ่ายภาพและแวะพักใน อุทัยธานี ผมขอรวมๆไว้ให้เลยนะครับ ถ้าสนใจแวะก็ดูใต้ชื่อรูปเอานะครับ
* เห็นภาพเหมือนจะน่าไป แต่ที่นี่ไกลก็ไกล ทุรกันดารมาก ไม่มีอะไรเลยนอกจากต่อคิวถ่ายภาพตรงนี้ จะไปคิดกันดีๆนะครับ ^^
ขากลับกรุงเทพฯถ้าผ่านอ่างทองผมมีร้านกาแฟ ที่น่าแวะชื่อ “Brighter day cafe” เป็นร้านที่ไม่ใหญ่นัก แต่ขนมอร่อยโดยเฉพาะ Honey Toast อร่อยมากๆ ร้านน่ารัก บรรยากาศดี