ภูเรือ เป็นอุทยานแห่งชาติอยู่ในจังหวัดเลย เป็นที่น่าสนใจอีกที่หนึ่งทั้งธรรมชาติและความสวย ไม่แพ้ที่อื่นๆเลย บรรยากาศตอนเช้าหนาวเย็นลมแรงหมอกหนา ช่วงเย็นร่มรื่นธรรมชาดิสุดๆ อยากนอนซะตรงนั่น ให้อารมที่แตกต่างเป็นอีกแบบดีครับ ถึงแม้ว่าจะนั่งรถของอุทยานขึ้นไปถึงยอดได้ แต่ความเป็นธรรมชาติก็ยังคงสมบูรณ์ หากไม่อยากนั่งรถขึ้นก็มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติสองข้างทาง
บางคนอาจสงสัยว่าทำไมถึงชื่อภูเรือ แต่ไม่เห็นมีเรือสักลำ จริงๆแล้วสาเหตุที่ขนานนามว่า “ภูเรือ” เพราะมีภูเขาลูกหนึ่งมีชะโงกผายื่นออกมาดูคล้ายสำเภาใหญ่ และที่ราบบนยอดเขามีลักษณะคล้ายท้องเรือ รูปร่างลักษณะเหมือนเรือใหญ่
พื้นที่ของภูเรือ เป็นป่าอันอุดมสมบูรณ์ มีเนื้อที่ประมาณ 120.84 ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วยทิวเขาสูง สลับซับซ้อนเรียงรายเป็นรูปแปลกตา สลับกับที่ราบเป็นบางส่วน ตลอดจนมีธรรมชาติและทิวทัศน์ที่สวยงาม
สำหรับตอนเช้าความหนาวเย็นไม่ต้องห่วงบางฤดูอากาศหนาวเย็นมากต่ำว่า 0 องศา มีทะเลหมอกที่สวยไม่แพ้ที่ไหนๆ ควรเตร้ยมชุดกันหนาวมากันให้พร้อม
คนที่ขอบธรรมชาติมากๆ ก็มีน้ำตกที่ต้องเดินเข้าไปไกลพอสมควร บางจุดก็ถ้าจะเข้าไปก็ต้องให้คนในอุทยานนำเข้าไป เนื่องจากที่นี้คนไม่ค่อยเยอะเหมือนที่อื่นทำให้บางจุดจะไม่เห็นทางเดินเลย เดินไปอาจหลงได้ระวังกันด้วยนะครับ
ตรงส่วนล่างของอุทยานเป็นป่าไผ่ มีอุโมงไผ่เป็นจุดๆ เหมาะกับการถ่ายรูป สวยไปอีกแบบ!!!
เรื่องที่พัก
สำหรับคนอยากใกล้ชิดธรรมชาติมากๆ ทางอุทยานเองก็มีบ้านพักและจุดกางเต้นท์
แต่สำหรับคนที่ชอบถ่ายรูป อาหารการกินที่พักสะดวกสบายๆ รีสอร์ทตรงจุดก่อนทางขึ้นอุทยานก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ (ผมเองก็พักจุดทางขึ้น) สำหรับรีสอร์ทที่นี้ทางเข้าอาจดูไม่น่าพักแต่ผมแนะนำให้ลองเข้าไปดูหรืออ่านรีวิวแต่ละที่ดูก่อน
เพราะรีสอร์ทที่ผมเข้าไปพักทางเข้าก็ไม่น่าสนใจอะไร แต่พอเข้าไปนี้สิ ใช่เลย (แทบไม่อยากออกจากที่พักเลย 555+)
แนะนำ
ถ้าจะเดินไปน้ำตกใส่เสื้อผ้าที่ปิดนิดๆนะครับ เพราะอาจเกิดบาดแผลจากต้นไผ่ได้ บางฤดูมีทาก ก็ลองโทรถามทางอุทยานก่อนก็ได้ครับจะได้เตรียมตัวถูก
ข้อดี
ที่นี้ไม่ใช่ที่เป็นตัวเลือกแรกๆ และสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ทำให้เราไม่จำเป็นต้องมาในช่วงท่องเที่ยว คนก็จะไม่เยอะสามารถเก็บเกี่ยวบรรยากาศได้เต็มที่
ข้อเสีย
เพราะรถสามารถขึ้นไปได้ทำให้ ฤดูท่องเที่ยวคนจะเยอะเป็นพิเศษ อาจไม่ได้บรรยากาศอย่างที่หวัง